วันอาทิตย์ที่ 8 กุมภาพันธ์ พ.ศ. 2558

โครงงานการประดิษฐ์ผ้าคลุมจอคอมพิวเตอร์และเผยแพร่ผ่าน Blogger

โครงงานการประดิษฐ์ผ้าคลุมจอคอมพิวเตอร์และเผยแพร่ผ่าน Blogger
เรื่องกลุ่มสาระการเรียนรู้ การงานอาชีพและเทคโนโลยี

จัดทำโดย
                                เด็กหญิงชญช์ณภัทร                          พงษ์สุวรรณ                          เลขที่20
                                เด็กหญิงชลธิชา                                   ชวนชม                                 เลขที่21
                                เด็กหญิงสุจิตตรา                                 อินทร์บุญ                              เลขที่31
                                เด็กหญิงอติกานต์                                จำปาเงิน                                เลขที่32
                                เด็กหญิงอัญชิสา                                  นาคทอง                                เลขที่35
ชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 3/1

เสนอ
อาจารย์เพ็ญประภา             นันทนาสิทธิ์
ปีการศึกษา 2557

โรงเรียนกาญจนาภิเษกวิทยาลัย สุพรรณบุรี

.........................................................................................................................................................................................................................
ชื่อโครงงาน                          การประดิษฐ์ผ้าคลุมจอคอมพิวเตอร์และเผยแพร่ผ่าน Bloger
ประเภทโครงงาน                สิ่งประดิษฐ์
ผู้จัดทำโครงงาน                 1.ด.ญ.ชญน์ณภัทร พงษ์สุวรรณ  ชั้นมัธยมศึกาษาปีที่ 3
                                                2.ด.ญ.ชลธิชา ชวนชม  ชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 3
                                                3.ด.ญ.สุจิตตรา อินทร์บุญ  ชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 3
                                                4.ด.ญ.อติกานต์ จำปาเงิน  ชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 3
                                                5.ด.ญ.อัญชิสา นาคทอง  ชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 3
ครูที่ปรึกษา                           นางสาวเพ็ญประภา  นันทนาสิทธิ์
สถานที่ศึกษา                       โรงเรียนกาญจนาภิเษกวิทยาลัยสุพรรณบุรี
.........................................................................................................................................................................................................................
บทคัดย่อ
            โครงงานการงานอาชีพเรื่อง การประดิษฐ์ผ้าคลุมจอคอมพิวเตอร์และเผยแพร่ผ่าน Bloger จัดทำขึ้นเพื่อ ประดิษฐ์ผ้าคลุมจอคอมพิวเตอร์  เพื่อป้องกันฝุ่นละอองที่จะมาติดบนจอคอมพิวเตอร์ และ เพื่อศึกษาการจัดทำโครงงานคอมพิวเตอร์ความพึงพอใจของผู้ใช้สิ่งประดิษฐ์ผ้าคลุมคอมพิวเตอร์จากเศษผ้าที่เหลือใช้ ความพึงพอใจของผู้ใช้สิ่งประดิษฐ์ผ้าคลุมคอมพิวเตอร์จากเศษผ้าที่เหลือใช้ ในด้านความสวยงามของสิ่งประดิษฐ์ มีผู้ใช้จำนวน 5 คนพึงพอใจในระดับมากที่สุด ผู้ใช้จำนวน 4 คนพึงพอใจในระดับมากและผู้ใช้จำนวน คนพึงพอใจในระดับปานกลางด้านสิ่งประดิษฐ์สามารถลดความเปื้อนของฝุ่นละอองที่คอมพิวเตอร์ได้ มีผู้ใช้จำนวน 5คนพึงพอใจในระดับมากที่สุด ผู้ใช้จำนวน 4คนพึงพอใจในระดับมากและผู้ใช้จำนวน คนพึงพอใจในระดับปานกลางด้านสิ่งประดิษฐ์มีขนาดที่เหมาะสมต่อการใช้งาน มีผู้ใช้จำนวน 4คนพึงพอใจในระดับมากที่สุด ผู้ใช้จำนวน 4คนพึงพอใจในระดับมากและผู้ใช้จำนวน 2คนพึงพอใจในระดับปานกลางด้านสิ่งประดิษฐ์มีความสร้างสรรค์ มีผู้ใช้จำนวน 6คนพึงพอใจในระดับมากที่สุด ผู้ใช้จำนวน 3คนพึงพอใจในระดับมากและผู้ใช้จำนวน 1คนพึงพอใจในระดับปานกลางและด้านได้ช่วยให้ผู้ใช้ประหยัดค่าใช้จ่าย มีผู้ใช้จำนวน 7คนพึงพอใจในระดับมากที่สุด ผู้ใช้จำนวน 2คนพึงพอใจในระดับมากและผู้ใช้จำนวน 1คนพึงพอใจในระดับปานกลาง
คำนำ
                การประดิษฐ์ผ้าคลุมจอคอมพิวเตอร์เป็นสิ่งประดิษฐ์ที่ต้องใช้ความรู้ในเรื่องของวิชาการงานอาชีพในด้านการตัดเย็บผลงาน วิชาคณิตศาสตร์ในการวัดผ้าเพื่อให้ได้ขนาดที่ต้อง และวิชาศิลปะในการตกแต่งและเพิ่มลูกเล่นให้ผลงานผ้าคลุมนี้มีความสวยงาม ประณีตและน่าใช้ การนำความรู้ของแต่ละวิชาเข้ามาผสมผสานกันให้ได้ผ้าคลุมที่เราต้องการทั้งมีความสวยงาม น่าใช้ และทนทาน ต้องมีประโยชน์และประหยัด ทั้งนี้คณะผู้จัดยังต้องการที่จะเผยแพร่แก่บุคคลทั่วไป จึงได้เผยแพร่ผ่า Bloger  คณะผู้จัดทำจึงลงมือประดิษฐ์ผ้าคลุมคอมพิวเตอร์ขึ้นมา
                ขอขบพระคุณคุณครูเพ็ญประภา นันทนาสิทธิ์ ที่ได้ให้ความรู้เกี่ยวกับการสร้าง Bloger และให้คำปรึกษาในปัญหาจนทำให้โครงงานเรื่องนี้ประสบความสำเร็จ                              


คณะผู้จัดทำ
วันเสาร์ที่ 31 มกราคม 2558



 
กิตติกรรมประกาศ
            โครงงานการงานอาชีพเรื่อง การประดิษฐ์ผ้าคลุมจอคอมพิวเตอร์และเผยแพร่ผ่าน Bloger” ทางคณะผู้จัดทำได้ศึกษาการออกแบบ ประดิษฐ์ผ้าคลุมจอ และทดลองกับหน้าจอคอมพิวเตอร์ที่บ้านของคณะผู้จัดทำโดยแก้ไขและปรับปรุงเพื่อให้ผ้าคลุมจอคอมพิวเตอร์มีขนาดที่เหมาะสมกับหน้าจอคอมพิวเตร์
                ขอขอบพระคุณคุณครูเพ็ญประภาที่ได้ช่วยเหลือให้คำแนะนำและเป็นที่ปรึกษาโครงงาน จนโครงงานประสบความสำเร็จ
                สุดท้ายนี้คณะผู้จัดทำขอกราบขอบคุณบิดา มารดา ที่ได้สนับสนุนงบประมาณ คอยให้กำลังใจ และส่งเสริมการทำโครงงานการงานอาชีพเป็นอย่างดี



คณะผู้จัดทำโครงงาน



 บทที่ 1
บทนำ
ที่มาและความสำคัญ
                เนื่องจากคอมพิวเตอร์เป็นสิ่งที่คนในสมัยนี้ใช้กันอย่างแพร่หลายและใช้เวลาอยู่กับคอมพิวเตอร์เป็นเวลานาน เราทุกคนก็คงอยากให้คอมพิวเตอร์ที่เราใช้เป็นประจำนี้สะอาดน่าใช้อยู่ตลอดเวลาแต่ก็มีหลายสิ่งที่อาจทำให้คอมพิวเตอร์ของเราไม่น่าใช้ หรือขัดข้อง จากหลายๆสาเหตุ เช่น ฝุ่นละออง ความชื้น เป็นต้น
                คณะผู้จัดทำจึงคิดว่าการทำผ้าคลุมคอมพิวเตอร์ด้วยตนเองน่าจะเป็นทางเลือกที่ดีในป้องกันฝุ่นและความชื้น และยังใช้งบประมาณไม่มากในการทำอีกด้วย
วัตถุประสงค์
                1.เพื่อประดิษฐ์ผ้าคลุมจอคอมพิวเตอร์
                2.เพื่อป้องกันฝุ่นละอองที่จะมาติดบนจอคอมพิวเตอร์
                3.เพื่อศึกษาการจัดทำโครงงานคอมพิวเตอร์
ขอบเขตการศึกษา
                บ้านของคณะผู้จัดทำ
ประโยชน์ที่คาดว่าจะได้รับ
                1.ได้เรียนรู้ถึงการทำโครงงานคอมพิวเตอร์ประเภทประดิษฐ์
                2.ได้เรียนรู้ถึงการประดิษฐ์ผ้าคลุมจอคอมพิวเตอร์
                3.ได้เรียนรู้การทำงานเป็นกลุ่ม
ระยะเวลาในการศึกษา
                ตั้งแต่เดือนธันวาคม – เดือนกุมภาพันธ์
บทที่ 2
เอกสารที่เกี่ยวข้อง
                     ในการจัดทำโครงงานเรื่อง ประดิษฐ์ผ้าคลุมจอคอมพิวเตอร์เผยแพร่ผ่าน Bloger มีเอกสารที่เกี่ยวข้องดังนี้ 1.ผ้า  2.ชนิดของผ้า
1.ผ้า
  ผ้า คือ สิ่งที่ได้จากการนำวัสดุธรรมชาติหรือวัสดุที่สังเคราะห์ขึ้นมาสานหรือทอจนเป็นเนื้อเดียวกัน เช่น ฝ้าย ใยไหม ไนลอน เป็นต้น ประโยชน์ของผ้าคือการนำมาตัดเย็บเป็นเครื่องนุ่งห่ม เครื่องใช้ประเภทผ้าต่างๆ และในด้านอื่นๆ เช่น การตกแต่งสถานที่ เป็นต้น วัสดุที่หลักใช้ในการผลิตผ้า ได้แก่ วัสดุจากสัตว์ วัสดุจากพืช แร่ธรรมชาติ และจากการสังเคราะห์เคมี
ประวัติศาสตร์
ผ้านั้นมีมานานแล้วตั้งแต่ก่อนคริสต์ศักราช โดยจากการสำรวจพบผ้าลินินในถ้ำที่จอร์เจียเมื่อกว่า 34,000 ปีก่อนคริสต์ศักราช ซึ่งนับเป็นหลักฐานทางประวัติศาสตร์ชิ้นนึงเกี่ยวกับผ้าที่สำคัญ
สำหรับปัจจุบันนั้นคุณภาพ และขนาดของผ้าจะถูกกำหนดโดยโรงงาน แต่เทคนิคการถักทอ และลวดลายบนผ้านั้นได้รับการสืบสานจากวัฒนธรรมโบราณ และการออกแบบสมัยใหม่จนกลายเป็นวัฒนธรรมร่วมสมัย
ประเภทการใช้งาน
ผ้านั้นถูกนำไปใช้ประโยชน์ในหลายด้าน แต่ที่พบมากที่สุดคือ การนำไปตัดเย็บเป็นเสื้อผ้าและภาชนะใส่ของ เช่น กระเป๋า และกระเช้า เป็นต้น นอกจากนี้ยังนำไปผลิตเป็นผลิตภัณฑ์ที่ใช้ในบ้านด้วย เช่น ผ้าม่าน ผ้าปูเตียง ผ้าขนหนู เป็นต้น รวมถึงในวงการวิทยาศาสตร์และอุตสาหกรรมได้นำคุณสมบัติของผ้าไปใช้ในการกรองต่างๆ อีกด้วย
โดยเฉพาะในวงการอุตสาหกรรมมีการผลิตชุดสำหรับงานเฉพาะด้านอีกด้วย เช่น ชุดสำหรับช่างซ่อมรถยนต์ที่มีความหนาเป็นพิเศษ ชุดสำหรับนักดับเพลิงที่มีความไวไฟต่ำ และชุดสำหรับแพทย์ในห้องผ่าตัดที่มีการเคลือบสารพิเศษสำหรับฆ่าเชื้อโรคโดยเฉพาะ เป็นต้น

  3
 
ผ้าฝ้าย (cotton)
          เป็นใยเซลลูโลสได้จากดอกของฝ้าย ผ้าที่ผลิตจากฝ้ายพันธุ์ดีเส้นใยยาว ผิวของผ้าจะเรียบเนียน และทนทาน คุณภาพของผ้าฝ้ายขึ้นอยู่กับพันธุ์ ความยาวและความเรียบของเส้นใย ใยฝ้ายเองไม่ใคร่แข็งแรงนัก แต่เมื่อนำมาทอเป็นผ้า จะได้ผ้าที่แข็งแรง ยิ่งทอเนื้อหนา-แน่นจะยิ่งแข็งแรง ทนทาน ดูดความชื้นได้ดี เหมาะสำหรับทำผ้าเช็ดตัว ผ้าเช็ดหน้า ผ้าฝ้ายเนื้อบางถึงเนื้อหนาปานกลาง ใช้เป็นชุดสวมในฤดูร้อนจะรู้สึกเย็นสบาย คุณลักษณะเด่นของผ้าฝ้ายคือ
- ยับง่าย รีดให้เรียบได้ยาก แต่ปัจจุบันมีการตกแต่ง (Finish) ทำให้ผ้าไม่ใคร่ยับและรีดให้เรียบได้ง่ายขึ้น
- ซักได้ด้วยผงซักฟอก ซักรีดได้ที่อุณหภูมิสูง
- แมลงไม่กินแต่จะขึ้นรา

ผ้าฝ้ายผสมกับผ้าใยสังเคาะห์ หรือที่เรียกกันทั่วไปว่าผ้า T/C หรือ TC
          เป็น ผ้าที่มีส่วนผสมเป็นใยสังเคราะห์ และนำเนื้อฝ้ายเข้ามาผสมรวมด้วย คุณสมบัติก็จะอยู่กลางระหว่างผ้า cotton และผ้า TK ผ้าชนิดนี้นิยมทอผ้าให้มีลักษณะเป็นรู เนื่องจากผ้าประเภท TK และ TC มีสมบัติในการระบายอากาศที่ไม่ค่อยดีนัก การทอผ้า จึงนิยมทอผ้าให้มีรูเล็กๆ เพื่อช่วยระบายอากาศ และเพื่อความสบายในการสวมใส่เนื้อผ้า จะมีลักษณะความมัน (น้อยกว่า TK) ผ้าใยสังเคาะห์ หรือที่เรียกกันทั่วไปว่า
  4
 
ผ้า T/K หรือ TK เป็นผ้าที่มีส่วนผสมหลักเป็นใยสังเคราะห์ เนื้อผ้าจะมีลักษณะมัน คุณสมบัติ ทั่วๆไป คือ ผ้า TK จะไม่ค่อยยับ อยู่ทรง ไม่ย้วย สีไม่ตก แต่ข้อเสียก็คือเสื้อที่ทำจากผ้า TK ใส่แล้วจะร้อน เนื่องจากระบายอากาศไม่ดีผ้า TK จึงนิยมทอ ให้มีลักษณะเป็นรูเช่นกัน ทนทานหาได้ง่ายและวางขายตามท้องตลาด
วัสดุที่ใช้ในการผลิตผ้า
วัสดุที่ใช้ในการผลิตผ้านั้นมีหลายประเภท ดังนี้
·         สัตว์ วัสดุที่ได้จากจะนำมาจากผม ขน ผิวหนัง และเส้นใย (ดักแด้) ที่ได้จากสัตว์ เช่น ขนแกะ ขนแพะ เป็นต้น ตัวอย่างของผลิตภัณฑ์ที่ได้ คือ เสื้อขนแกะ และผ้าไหม
·         พืช วัสดุที่ได้จะนำมาจากเส้นใยของพืช เช่น ใยสัปปะรด ใยฝ้าย เป็นต้น ตัวอย่างของผลิตภัณฑ์ที่ได้ คือ เสื้อใยสัปปะรด เสื้อที่ทำจากฝ้ายสำหรับเด็กอ่อน
·         แร่ธรรมชาติ วัสดุที่ได้จะนำมาจากเส้นใยของแร่ธรรมชาติ เช่น ใยหิน และใยบะซอลต์ ตัวอย่างของผลิตภัณฑ์ที่ได้คือ ผ้าคลุมด้านล่างของประตูที่มีความทนทานมากๆ (นิยมในต่างประเทศ) สำหรับป้องกันรอยขีดข่วนจากสัตว์โดยเฉพาะ เช่น สุนัข แมว เป็นต้น
·         สังเคราะห์เคมี วัสดุที่ได้มาจากการสังเคราะห์ขึ้นด้วยกระบวนการทางเคมี เช่น ไนลอน เส้นใยทนไฟ เป็นต้น ตัวอย่างของผลิตภัณฑ์ที่ได้คือ ถุงน่องของผู้หญิง เสื้อคลุมที่ติดไฟยากสำหรับนักดับเพลิง นอกจากนี้ยังมีผลิตภัณฑ์เกี่ยวกับผ้าทางการแพทย์อีกด้วย เช่น ชุดสำหรับแพทย์ในห้องผ่าตัดที่มีการเคลือบสารพิเศษสำหรับฆ่าเชื้อโรค เป็นต้น
2.ชนิดของผ้า
คำนำ
                การประดิษฐ์ผ้าคลุมจอคอมพิวเตอร์เป็นสิ่งประดิษฐ์ที่ต้องใช้ความรู้ในเรื่องของวิชาการงานอาชีพในด้านการตัดเย็บผลงาน วิชาคณิตศาสตร์ในการวัดผ้าเพื่อให้ได้ขนาดที่ต้อง และวิชาศิลปะในการตกแต่งและเพิ่มลูกเล่นให้ผลงานผ้าคลุมนี้มีความสวยงาม ประณีตและน่าใช้ การนำความรู้ของแต่ละวิชาเข้ามาผสมผสานกันให้ได้ผ้าคลุมที่เราต้องการทั้งมีความสวยงาม น่าใช้ และทนทาน ต้องมีประโยชน์และประหยัด ทั้งนี้คณะผู้จัดยังต้องการที่จะเผยแพร่แก่บุคคลทั่วไป จึงได้เผยแพร่ผ่า Bloger  คณะผู้จัดทำจึงลงมือประดิษฐ์ผ้าคลุมคอมพิวเตอร์ขึ้นมา
                ขอขบพระคุณคุณครูเพ็ญประภา นันทนาสิทธิ์ ที่ได้ให้ความรู้เกี่ยวกับการสร้าง Bloger และให้คำปรึกษาในปัญหาจนทำให้โครงงานเรื่องนี้ประสบความสำเร็จ                              


คณะผู้จัดทำ
วันเสาร์ที่ 31 มกราคม 2558


 
 
กิตติกรรมประกาศ
            โครงงานการงานอาชีพเรื่อง การประดิษฐ์ผ้าคลุมจอคอมพิวเตอร์และเผยแพร่ผ่าน Bloger” ทางคณะผู้จัดทำได้ศึกษาการออกแบบ ประดิษฐ์ผ้าคลุมจอ และทดลองกับหน้าจอคอมพิวเตอร์ที่บ้านของคณะผู้จัดทำโดยแก้ไขและปรับปรุงเพื่อให้ผ้าคลุมจอคอมพิวเตอร์มีขนาดที่เหมาะสมกับหน้าจอคอมพิวเตร์
                ขอขอบพระคุณคุณครูเพ็ญประภาที่ได้ช่วยเหลือให้คำแนะนำและเป็นที่ปรึกษาโครงงาน จนโครงงานประสบความสำเร็จ
                สุดท้ายนี้คณะผู้จัดทำขอกราบขอบคุณบิดา มารดา ที่ได้สนับสนุนงบประมาณ คอยให้กำลังใจ และส่งเสริมการทำโครงงานการงานอาชีพเป็นอย่างดี



คณะผู้จัดทำโครงงาน
บทที่ 1
บทนำ
ที่มาและความสำคัญ
                เนื่องจากคอมพิวเตอร์เป็นสิ่งที่คนในสมัยนี้ใช้กันอย่างแพร่หลายและใช้เวลาอยู่กับคอมพิวเตอร์เป็นเวลานาน เราทุกคนก็คงอยากให้คอมพิวเตอร์ที่เราใช้เป็นประจำนี้สะอาดน่าใช้อยู่ตลอดเวลาแต่ก็มีหลายสิ่งที่อาจทำให้คอมพิวเตอร์ของเราไม่น่าใช้ หรือขัดข้อง จากหลายๆสาเหตุ เช่น ฝุ่นละออง ความชื้น เป็นต้น
                คณะผู้จัดทำจึงคิดว่าการทำผ้าคลุมคอมพิวเตอร์ด้วยตนเองน่าจะเป็นทางเลือกที่ดีในป้องกันฝุ่นและความชื้น และยังใช้งบประมาณไม่มากในการทำอีกด้วย
วัตถุประสงค์
                1.เพื่อประดิษฐ์ผ้าคลุมจอคอมพิวเตอร์
                2.เพื่อป้องกันฝุ่นละอองที่จะมาติดบนจอคอมพิวเตอร์
                3.เพื่อศึกษาการจัดทำโครงงานคอมพิวเตอร์
ขอบเขตการศึกษา
                บ้านของคณะผู้จัดทำ
ประโยชน์ที่คาดว่าจะได้รับ
                1.ได้เรียนรู้ถึงการทำโครงงานคอมพิวเตอร์ประเภทประดิษฐ์
                2.ได้เรียนรู้ถึงการประดิษฐ์ผ้าคลุมจอคอมพิวเตอร์
                3.ได้เรียนรู้การทำงานเป็นกลุ่ม
ระยะเวลาในการศึกษา
                ตั้งแต่เดือนธันวาคม – เดือนกุมภาพันธ์
กล่องข้อความ:   2บทที่ 2
เอกสารที่เกี่ยวข้อง
                     ในการจัดทำโครงงานเรื่อง ประดิษฐ์ผ้าคลุมจอคอมพิวเตอร์เผยแพร่ผ่าน Bloger มีเอกสารที่เกี่ยวข้องดังนี้ 1.ผ้า  2.ชนิดของผ้า
1.ผ้า
  ผ้า คือ สิ่งที่ได้จากการนำวัสดุธรรมชาติหรือวัสดุที่สังเคราะห์ขึ้นมาสานหรือทอจนเป็นเนื้อเดียวกัน เช่น ฝ้าย ใยไหม ไนลอน เป็นต้น ประโยชน์ของผ้าคือการนำมาตัดเย็บเป็นเครื่องนุ่งห่ม เครื่องใช้ประเภทผ้าต่างๆ และในด้านอื่นๆ เช่น การตกแต่งสถานที่ เป็นต้น วัสดุที่หลักใช้ในการผลิตผ้า ได้แก่ วัสดุจากสัตว์ วัสดุจากพืช แร่ธรรมชาติ และจากการสังเคราะห์เคมี
ประวัติศาสตร์
ผ้านั้นมีมานานแล้วตั้งแต่ก่อนคริสต์ศักราช โดยจากการสำรวจพบผ้าลินินในถ้ำที่จอร์เจียเมื่อกว่า 34,000 ปีก่อนคริสต์ศักราช ซึ่งนับเป็นหลักฐานทางประวัติศาสตร์ชิ้นนึงเกี่ยวกับผ้าที่สำคัญ
สำหรับปัจจุบันนั้นคุณภาพ และขนาดของผ้าจะถูกกำหนดโดยโรงงาน แต่เทคนิคการถักทอ และลวดลายบนผ้านั้นได้รับการสืบสานจากวัฒนธรรมโบราณ และการออกแบบสมัยใหม่จนกลายเป็นวัฒนธรรมร่วมสมัย
ประเภทการใช้งาน
ผ้านั้นถูกนำไปใช้ประโยชน์ในหลายด้าน แต่ที่พบมากที่สุดคือ การนำไปตัดเย็บเป็นเสื้อผ้าและภาชนะใส่ของ เช่น กระเป๋า และกระเช้า เป็นต้น นอกจากนี้ยังนำไปผลิตเป็นผลิตภัณฑ์ที่ใช้ในบ้านด้วย เช่น ผ้าม่าน ผ้าปูเตียง ผ้าขนหนู เป็นต้น รวมถึงในวงการวิทยาศาสตร์และอุตสาหกรรมได้นำคุณสมบัติของผ้าไปใช้ในการกรองต่างๆ อีกด้วย
โดยเฉพาะในวงการอุตสาหกรรมมีการผลิตชุดสำหรับงานเฉพาะด้านอีกด้วย เช่น ชุดสำหรับช่างซ่อมรถยนต์ที่มีความหนาเป็นพิเศษ ชุดสำหรับนักดับเพลิงที่มีความไวไฟต่ำ และชุดสำหรับแพทย์ในห้องผ่าตัดที่มีการเคลือบสารพิเศษสำหรับฆ่าเชื้อโรคโดยเฉพาะ เป็นต้น



  3
 
           วัสดุที่ใช้ในการผลิตผ้า
วัสดุที่ใช้ในการผลิตผ้านั้นมีหลายประเภท ดังนี้
·         สัตว์ วัสดุที่ได้จากจะนำมาจากผม ขน ผิวหนัง และเส้นใย (ดักแด้) ที่ได้จากสัตว์ เช่น ขนแกะ ขนแพะ เป็นต้น ตัวอย่างของผลิตภัณฑ์ที่ได้ คือ เสื้อขนแกะ และผ้าไหม
·         พืช วัสดุที่ได้จะนำมาจากเส้นใยของพืช เช่น ใยสัปปะรด ใยฝ้าย เป็นต้น ตัวอย่างของผลิตภัณฑ์ที่ได้ คือ เสื้อใยสัปปะรด เสื้อที่ทำจากฝ้ายสำหรับเด็กอ่อน
·         แร่ธรรมชาติ วัสดุที่ได้จะนำมาจากเส้นใยของแร่ธรรมชาติ เช่น ใยหิน และใยบะซอลต์ ตัวอย่างของผลิตภัณฑ์ที่ได้คือ ผ้าคลุมด้านล่างของประตูที่มีความทนทานมากๆ (นิยมในต่างประเทศ) สำหรับป้องกันรอยขีดข่วนจากสัตว์โดยเฉพาะ เช่น สุนัข แมว เป็นต้น
·         สังเคราะห์เคมี วัสดุที่ได้มาจากการสังเคราะห์ขึ้นด้วยกระบวนการทางเคมี เช่น ไนลอน เส้นใยทนไฟ เป็นต้น ตัวอย่างของผลิตภัณฑ์ที่ได้คือ ถุงน่องของผู้หญิง เสื้อคลุมที่ติดไฟยากสำหรับนักดับเพลิง นอกจากนี้ยังมีผลิตภัณฑ์เกี่ยวกับผ้าทางการแพทย์อีกด้วย เช่น ชุดสำหรับแพทย์ในห้องผ่าตัดที่มีการเคลือบสารพิเศษสำหรับฆ่าเชื้อโรค เป็นต้น
2.ชนิดของผ้า
ผ้าฝ้าย (cotton)
          เป็นใยเซลลูโลสได้จากดอกของฝ้าย ผ้าที่ผลิตจากฝ้ายพันธุ์ดีเส้นใยยาว ผิวของผ้าจะเรียบเนียน และทนทาน คุณภาพของผ้าฝ้ายขึ้นอยู่กับพันธุ์ ความยาวและความเรียบของเส้นใย ใยฝ้ายเองไม่ใคร่แข็งแรงนัก แต่เมื่อนำมาทอเป็นผ้า จะได้ผ้าที่แข็งแรง ยิ่งทอเนื้อหนา-แน่นจะยิ่งแข็งแรง ทนทาน ดูดความชื้นได้ดี เหมาะสำหรับทำผ้าเช็ดตัว ผ้าเช็ดหน้า ผ้าฝ้ายเนื้อบางถึงเนื้อหนาปานกลาง ใช้เป็นชุดสวมในฤดูร้อนจะรู้สึกเย็นสบาย คุณลักษณะเด่นของผ้าฝ้ายคือ
- ยับง่าย รีดให้เรียบได้ยาก แต่ปัจจุบันมีการตกแต่ง (Finish) ทำให้ผ้าไม่ใคร่ยับและรีดให้เรียบได้ง่ายขึ้น
- ซักได้ด้วยผงซักฟอก ซักรีดได้ที่อุณหภูมิสูง
- แมลงไม่กินแต่จะขึ้นรา

ผ้าฝ้ายผสมกับผ้าใยสังเคาะห์ หรือที่เรียกกันทั่วไปว่าผ้า T/C หรือ TC
          เป็น ผ้าที่มีส่วนผสมเป็นใยสังเคราะห์ และนำเนื้อฝ้ายเข้ามาผสมรวมด้วย คุณสมบัติก็จะอยู่กลางระหว่างผ้า cotton และผ้า TK ผ้าชนิดนี้นิยมทอผ้าให้มีลักษณะเป็นรู เนื่องจากผ้าประเภท TK และ TC มีสมบัติในการระบายอากาศที่ไม่ค่อยดีนัก การทอผ้า จึงนิยมทอผ้าให้มีรูเล็กๆ เพื่อช่วยระบายอากาศ และเพื่อความสบายในการสวมใส่เนื้อผ้า จะมีลักษณะความมัน (น้อยกว่า TK) ผ้าใยสังเคาะห์ หรือที่เรียกกันทั่วไปว่า
  4
 
ผ้า T/K หรือ TK เป็นผ้าที่มีส่วนผสมหลักเป็นใยสังเคราะห์ เนื้อผ้าจะมีลักษณะมัน คุณสมบัติ ทั่วๆไป คือ ผ้า TK จะไม่ค่อยยับ อยู่ทรง ไม่ย้วย สีไม่ตก แต่ข้อเสียก็คือเสื้อที่ทำจากผ้า TK ใส่แล้วจะร้อน เนื่องจากระบายอากาศไม่ดีผ้า TK จึงนิยมทอ ให้มีลักษณะเป็นรูเช่นกัน ทนทานหาได้ง่ายและวางขายตามท้องตลาด
ผ้าโพลิเอสเตอร์ (Polyester)
          เส้น ใยยาวมีลักษณะนุ่ม เงามัน เส้นใยสั้นมีลักษณะคล้ายฝ้าย และขนสัตว์ จึงเป็นเส้นใยที่ใช้เลียนแบบ และผสมกับเส้นใยอื่นได้ดี ใช้มากในวงการอุตสาหกรรมเสื้อผ้า ดูดความชื้นได้น้อย น้ำหนักเบา ไม่ใคร่ยับ รีดจับจีบถาวรได้ มักผลิตเป็นผ้าประเภท Wash and Wear คือ รีดเพียงเล็กน้อย หรือไม่จำเป็นต้องรีด ปัญหาที่พบคือ ถ้าผลิตจากใยสั้นใช้ไปแล้วจะเป็นขุย เมื่อเผาจะละลายเป็นยางสีดำ ถ้าเผาจนสิ้นสุดเถ้าบางส่วนจะกรอบ

ผ้าขนสัตว์ (wool)
          ผลิต จากขนสัตว์หลายชนิด เช่น แกะ แพะ อูฐ และกระต่าย แต่ที่ผลิตมากที่สุดได้แก่ขนแกะ ขนสัตว์จะให้ความอบอุ่นเพราะไม่นำความร้อน ดูดความชื้นได้ดีจึงสามารถถ่ายเทความชื้นจากร่างกาย หรือบรรยากาศทำให้ไม่เหนะหนะเวลาสวมใส่ เมื่อถูกความร้อนและชื้น ผ้าขนสัตว์จะเชื่อมติดกันเป็นแผ่น หดทุกครั้งเมื่อเปียก (Progressive Shrinkage) จึงไม่แนะนำให้ซักรีดเอง ควรส่งร้านที่มีความชำนาญในการซักรีดผ้าขนสัตว์ เว้นเสียจากจะมีป้ายที่ติดมากับเสื้อบอกไว้ว่า ซักรีดได้ (Washable) ผ้าขนสัตว์บางชนิดจะตกแต่งกันหด (Shrinkage Control) และป้องกันไม่ให้เชื่อมติดกันเมื่อซักรีด วิธีการดูแลรักษาอย่างง่าย คือใช้แปรงนุ่ม ๆ แปรงฝุ่นออกทุกครั้งหลังการใช้ ถ้าถูกน้ำให้สบัดออกอย่าแปรงขณะผ้าเปียก แขวนในที่มีอากาศโปร่ง อย่าใช้เสื้อผ้าชุดเดียวติดต่อกันหลายวัน เพราะเมื่อขนสัตว์ถูกแรงถูไถไปมานาน ๆ จะแข็งเป็นมัน บางชนิดขนจะหลุดถ้าจะเก็บผ้าขนสัตว์ไว้ ควรซักแห้ง เก็บในถุงพลาสติคผนึกให้สนิท มอด (Moth) ชอบกินขนสัตว์มากผ้าทอขนสัตว์จะผลิตจากด้าย 2 ประเภท ทำให้คุณสมบัติและราคาต่างกันมากผ้าที่ผลิตจากด้าย woolen เรียก woolen fabric ทำจากเส้นใยที่ผ่านการสางครั้งเดียว เส้นใยมีความสั้น ยาว ปนกัน ผ้าค่อนข้างหยาบ บริเวณที่ถูกน้ำหนักกดทับเช่น ศอก เข้า ก้นมักจะเป็นโป่งเป็นถุงและเรียบเป็นมันผ้าที่ผลิตจากด้าย Worsted เรียก Worsted Fabric ทำจากเส้นใยที่ผ่านการสางสองครั้ง เส้นใยเล็ก ยาว ละเอียด ด้ายเข้าเกลียวแน่น ผ้าเนื้อเบา ละเอียดราคาแพง กว่า Woolen มาก

ผ้าสแปนเด็กซ์ (Spandex)
          เป็นใยยางสังเคราะห์ที่รู้จักกันในนาม Lycraดึงยืดได้ 6-7 เท่าของความยาวเดิม ต้านทานแรงดึงได้สูง
- คุณสมบัติของผ้าชนิดนี้คือ น้ำหนักเบา มีความยืดหยุ่นได้ดี เมื่อสวมใส่แล้วสามารถยืดขยายออกได้ถึง 500% และสามารถคืนตัวกลับมาในสภาพเดิม และสามารถระบายเหงื่อได้ดีอีกด้วย
- นอกจากคุณสมบัติที่ได้กล่าวมาแล้วข้างต้น กางเกงจักรยานที่ตัดเย็บจากผ้าสแปนเด็กซ์นี้ยังช่วยต้านแรงลม
  5
 
ได้ดี และยังช่วยป้องกันผิวหนังจากการเสียดสีกับอานจักรยาน หรือตัวถัง (Frame) ได้อีกด้วย ยิ่งไปกว่านั้น ผ้าชนิดนี้ ยังช่วยระบายเหงื่อออกจากผิวหนังได้อย่างรวดเร็ว ซึ่งจะไม่ทำให้เกิดการระคายเคืองหรือผดผื่น เมื่อสวมใส่เป็นเวลานานอีกด้วย

ผ้าไหม (silk)
          เป็น เส้นใยโปรทีน ได้จากรัง (Cocoon) ของไหม ผ้ามีความมันนุ่มเป็นเงา ไม่ใคร่ยับ คงรูปร่างได้ดีเหมาะสำหรับตัดชุด ดูดความชื้นได้ดี มีคุณสมบัติพิเศษคือ สามารถปรับตัวให้เข้ากับอุณหภูมิได้ดี จะรู้สึกเย็นสบายในหน้าร้อน และจะอบอุ่นในหน้าหนาว การซักผ้าไหม ถ้าจะให้คงความเงามัน คงรูปร่างควรซักแห้ง ไหมบางชนิดซักได้ด้วยมือในน้ำสบู่อย่างอ่อน (ผงซักฟอกจะทำลายความเงามันของไหม)ใช้ผ้าหมาด ๆ ปิดทับขณะรีด เผาไฟจะหดหนีไฟ พองตัว ติดไฟได้ เถ้านุ่ม

ไนลอน (Nylon)
          Dr. W. H. Carothers แห่งบริษัท Du Pont อเมริกา ค้นพบเมื่อ 1930 ครั้งแรกได้เป็นเส้น ๆ นำมาทำแปรงสีฟัน ในปี ค.ศ. 1940 ผลิตเป็นถุงน่องสตรี หลังจากนั้นได้พัฒนาเป็นเสื้อผ้าและของใช้มากมายหลายชนิดเส้นใยมีความเหนียว แข็งแรงทนทานมาก ยืดหยุ่นง่าย เมื่อถูกไฟจะละลาย ไม่ใคร่ไหม้ ออกจากไฟจะดับ เถ้าเป็นก้อนแข็งบีบไม่แตก

ผ้าทอ (woven fabrics)
          เป็น ผ้าที่เกิดจากกระบวนการทอโดยใช้เครื่องทอ (weaving loom) โดยมีเส้นยืน (warp yarn) และเส้นพุ่ง (filling or weft yarn) ที่ทอขัดในแนวตั้งฉากกัน และจุดที่เส้นทั้งสองสอดประสานกัน (interlacing) จะเป็นจุดที่เส้นด้ายเปลี่ยนตำแหน่งจากด้านหนึ่งของผ้าไปด้านตรงข้าม การทอในปัจจุบันมีการพัฒนา จากการทอด้วยมือ (hand looms) ไปเป็นการใช้เครื่องจักรในการทอ โดยใช้เทคนิคหลากหลายรูปแบบ แตกต่างกัน เช่น Air-jet loom, Rapier loom, Water-jet loom, Projectile loom, Double-width loom, Multiple-shed loom, Circular loom, Triaxial loom

ผ้าถัก (knitted fabrics)
          เป็น ผ้าที่เกิดจากการใช้เข็ม (needles) ถักเพื่อให้เกิดเป็นห่วงของด้ายที่มีการสอดขัดกัน (interlocking loops) โดยจะมีเส้นที่อยู่แนวตั้ง (Wales) และเส้นที่อยู่ในแนวนอน (courses)


  
6
 
            ผ้าลินิน (linen)
          ทำ จากต้น flax สามารถนำมาผลิตเป็นผ้าที่มีเนื้อบางมาก ๆ จนถึงผ้าเนื้อหนามาก เป็นเส้นใยธรรมชาติที่แข็งแรงที่สุด ใช้จนผ้าสึกบางจึงขาด ผ้ามีความเงามัน ผิวเรียบแข็ง ดูดซับน้ำได้ดีคุณลักษณะเด่นของผ้าฝ้ายคือ
- ยับง่าย รีดให้เรียบได้ยาก ควรตกแต่งกันยับ
- ซักด้วยผงซักฟอก รีดขณะชื้นที่อุณหภูมิสูง
- ถ้าเก็บผ้าลินินไว้นาน ๆ ต้องม้วนใส่แกนเก็บไว้ เพราะถ้าพับรอยพับจะหัก

บทที่ 3
วิธีการศึกษาค้นคว้า
ในการประดิษฐ์ผ้าคลุมคอมพิวเตอร์โดยการนำเสนอผ่าน Blog
1.วัสดุอุปกรณ์
2.วิธีการดำเนินการ
1. วัสดุอุปกรณ์
1.เศษผ้า
2.เข็ม
3.ด้าย
4.กาวแท่ง
6.ของตกแต่งสวยงามอื่นๆ
7.ดินสอ
8.กรรไกรตัดผ้า

2. วิธีการดำเนินการ
1.ใช้ดินสอร่างเส้นบางๆตามรูปแบบของผ้าคลุมที่ต้องการลงบนเศษผ้า จำนวน 2 ชิ้น
2.ตัดผ้าตามที่ร่างเส้นไว้
3.เย็บผ้าทั้ง 2 ชิ้นเข้าด้วยกันโดยเว้นช่องไว้พอประมาณ                                                                                           4.กลับด้านนอกของผ้าเข้าด้านใน
5.เย็บช่องว่างที่เหลือให้สนิท
6.ตกแต่งลวดลายเพิ่มเติม ด้วยการติดลูกไม้ หรือ ใช้กาวแท่งลนไฟติดเศษผ้าอื่นเพิ่มเพื่อความสวยงาม
7. สร้างแบบประเมินความพึงพอใจด้านต่างๆของผลิตภัณฑ์


 บทที่ 3
วิธีการศึกษาค้นคว้า
ในการประดิษฐ์ผ้าคลุมคอมพิวเตอร์โดยการนำเสนอผ่าน Blogger
1.วัสดุอุปกรณ์
2.วิธีการดำเนินการ
1. วัสดุอุปกรณ์
1.เศษผ้า
2.เข็ม
3.ด้าย
4.กาวแท่ง
6.ของตกแต่งสวยงามอื่นๆ
7.ดินสอ
8.กรรไกรตัดผ้า

2. วิธีการดำเนินการ
1.ใช้ดินสอร่างเส้นบางๆตามรูปแบบของผ้าคลุมที่ต้องการลงบนเศษผ้า จำนวน 2 ชิ้น
2.ตัดผ้าตามที่ร่างเส้นไว้
3.เย็บผ้าทั้ง 2 ชิ้นเข้าด้วยกันโดยเว้นช่องไว้พอประมาณ                                                                                           
4.กลับด้านนอกของผ้าเข้าด้านใน
5.เย็บช่องว่างที่เหลือให้สนิท
6.ตกแต่งลวดลายเพิ่มเติม ด้วยการติดลูกไม้ หรือ ใช้กาวแท่งลนไฟติดเศษผ้าอื่นเพิ่มเพื่อความสวยงาม
7. สร้างแบบประเมินความพึงพอใจด้านต่างๆของผลิตภัณฑ์


บทที่ 4
ผลการดำเนินงาน
4.1 ผลการดำเนินงาน
จากการให้ผู้ใช้สิ่งประดิษฐ์ ผ้าคลุมคอมพิวเตอร์จากเศษผ้าที่เหลือใช้จำนวน 10 คนทำแบบสอบถามสำรวจความพึงพอใจ ผลความพึงพอใจของผู้ใช้เป็นไป ดังตารางนี้
*ระดับความพึงพอใจ 5 = มากที่สุด 4 = มาก 3 = ปานกลาง    2 = น้อย และ 1 = น้อยที่สุด
ประเด็นการสำรวจความพึงพอใจ
จำนวนผู้ใช้ที่พึงพอใจในแต่ละระดับ(คน)
5
4
3
2
1
1.ความสวยงามของสิ่งประดิษฐ์
5
4
1
-
-
2.สิ่งประดิษฐ์สามารถลดความความเปื้อนของฝุ่นละอองที่คอมพิวเตอร์
5
4
1
-
-
3.สิ่งประดิษฐ์มีขนาดที่เหมาะสมต่อการใช้งาน
4
4
2
-
-
4.สิ่งประดิษฐ์มีความสร้างสรรค์
6
3
1
-
-
5.ประหยัดค่าใช้จ่าย
7
2
1
-
-
ตารางแสดงผลความพึงพอใจของผู้ใช้ในแต่ละระดับ
                ความพึงพอใจของผู้ใช้สิ่งประดิษฐ์ผ้าคลุมคอมพิวเตอร์จากเศษผ้าที่เหลือใช้ ในด้านความสวยงามของสิ่งประดิษฐ์ มีผู้ใช้จำนวน 5 คนพึงพอใจในระดับมากที่สุด ผู้ใช้จำนวน 4 คนพึงพอใจในระดับมากและผู้ใช้จำนวน คนพึงพอใจในระดับปานกลางด้านสิ่งประดิษฐ์สามารถลดความเปื้อนของฝุ่นละอองที่คอมพิวเตอร์ได้ มีผู้ใช้จำนวน 5คนพึงพอใจในระดับมากที่สุด ผู้ใช้จำนวน 4คนพึงพอใจในระดับมากและผู้ใช้จำนวน คนพึงพอใจในระดับปานกลางด้านสิ่งประดิษฐ์มีขนาดที่เหมาะสมต่อการใช้งาน มีผู้ใช้จำนวน 4คนพึงพอใจในระดับมากที่สุด ผู้ใช้จำนวน 4คนพึงพอใจในระดับมากและผู้ใช้จำนวน 2คนพึงพอใจในระดับปานกลางด้านสิ่งประดิษฐ์มีความสร้างสรรค์ มีผู้ใช้จำนวน 6คนพึงพอใจในระดับมากที่สุด ผู้ใช้จำนวน 3คนพึงพอใจในระดับมากและผู้ใช้จำนวน 1คนพึงพอใจในระดับปานกลางและด้านได้ช่วยให้ผู้ใช้ประหยัดค่าใช้จ่าย มีผู้ใช้จำนวน 7คนพึงพอใจในระดับมากที่สุด ผู้ใช้จำนวน 2คนพึงพอใจในระดับมากและผู้ใช้จำนวน 1คนพึงพอใจในระดับปานกลาง


บทที่ 5
สรุปผลและข้อเสนอแนะ
สรุปผล
                ความพึงพอใจของผู้ใช้สิ่งประดิษฐ์ ผ้าคลุมคอมพิวเตอร์จากเศษผ้าที่เหลือใช้ ในด้านความสวยงามของสิ่งประดิษฐ์ มีผู้ใช้จำนวน 5 คนพึงพอใจในระดับมากที่สุด ผู้ใช้จำนวน 4 คนพึงพอใจในระดับมาก และผู้ใช้จำนวน คนพึงพอใจในระดับปานกลาง ด้านสิ่งประดิษฐ์สามารถลดความเปื้อนของฝุ่นละอองที่คอมพิวเตอร์ได้ มีผู้ใช้จำนวน 5 คนพึงพอใจในระดับมากที่สุด ผู้ใช้จำนวน 4 คนพึงพอใจในระดับมาก และผู้ใช้จำนวน คนพึงพอใจในระดับปานกลาง ด้านสิ่งประดิษฐ์มีขนาดที่เหมาะสมต่อการใช้งาน มีผู้ใช้จำนวน 4 คนพึงพอใจในระดับมากที่สุด ผู้ใช้จำนวน 4 คนพึงพอใจในระดับมาก และผู้ใช้จำนวน 2 คนพึงพอใจในระดับปานกลาง ด้านสิ่งประดิษฐ์มีความสร้างสรรค์ มีผู้ใช้จำนวน 6 คนพึงพอใจในระดับมากที่สุด ผู้ใช้จำนวน 3 คนพึงพอใจในระดับมาก และผู้ใช้จำนวน 1 คนพึงพอใจในระดับปานกลาง และด้านได้ช่วยให้ผู้ใช้ประหยัดค่าใช้จ่าย มีผู้ใช้จำนวน 7 คนพึงพอใจในระดับมากที่สุด ผู้ใช้จำนวน 2 คนพึงพอใจในระดับมาก และผู้ใช้จำนวน 1 คนพึงพอใจในระดับปานกลาง
ข้อเสนอแนะ
1.ควรทำที่คลุมให้กับอุปกรณ์อื่นๆของคอมพิวเตอร์ด้วย
2.ควรเพิ่มความสวยงามของสิ่งประดิษฐ์ให้มากกว่านี้


ภาคผนวก

















ไม่มีความคิดเห็น:

แสดงความคิดเห็น